โรคพยาธิเม็ดเลือดที่ทำให้สุนัขและแมวเดินผิดปกติ อันตรายใกล้ตัวที่เจ้าของต้องรู้ทัน
- Benjapornchita Thongtaipar
- 3 ธ.ค.
- ยาว 1 นาที

1. ทำไมพยาธิเม็ดเลือดถึงทำให้เดินผิดปกติ?
เชื้อทำลายเม็ดเลือดแดง ทำให้เกิดภาวะซีด กล้ามเนื้ออ่อนแรง
มีการอักเสบของข้อและกล้ามเนื้อ ทำให้เดินกระเผลกหรือเจ็บขา
การขาดออกซิเจนในเลือดส่งผลต่อสมองและระบบทรงตัว ทำให้เดินเซ เดินโซซัดโซเซ
2. เชื้อพยาธิเม็ดเลือดที่พบบ่อยในสุนัขและแมว
Ehrlichia canis – ทำลายเกล็ดเลือด เลือดออกง่าย เดินอ่อนแรง
Anaplasma – ทำให้ข้ออักเสบ เดินเจ็บขา ลุกเดินลำบาก
Babesia – ทำลายเม็ดเลือดแดงจนซีดมาก ทำให้ยืนไม่ไหว
Mycoplasma haemofelis (ในแมว) – ทำให้ซีดสะสม เดินอ่อนแรงเรื้อรัง
3. อาการที่มักพบร่วมกับการเดินผิดปกติ
ซึม ไข้สูง เบื่ออาหาร
ตัวเหลือง เหงือกซีด
จุดเลือดออกตามตัว
หายใจแรง เหนื่อยง่าย
น้ำหนักลด หรือมีต่อมน้ำเหลืองโต
4. สัญญาณอันตรายที่ต้องรีบพบสัตวแพทย์ทันที
เดินเซมากขึ้นจนยืนไม่ได้
หอบ เหนื่อย หรือมีเลือดออกผิดปกติ
ซึมหนัก ไม่ยอมกินน้ำกินอาหาร
เหงือกซีดหรือซีดลงเรื่อยๆ
5. การตรวจวินิจฉัยโรคพยาธิเม็ดเลือด
ตรวจเลือดดูค่าความซีด เกล็ดเลือด และการอักเสบ
ตรวจหาเชื้อเฉพาะด้วยวิธี PCR
ตรวจเห็บร่วม เพราะเห็บเป็นพาหะหลัก
6. การรักษาเบื้องต้นที่สัตวแพทย์ใช้
ยาปฏิชีวนะเฉพาะโรค เช่น ด็อกซีไซคลิน
ยาลดอักเสบ บำรุงเลือด หรือให้น้ำเกลือในรายที่อ่อนแรง
ในรายหนักอาจต้องถ่ายเลือด
ควรติดตามอาการต่อเนื่องจนเชื้อหมด
7. วิธีป้องกันไม่ให้เกิดโรค
ใช้ยาป้องกันเห็บเป็นประจำ (หยดหลัง-ยากิน-ปลอกคอกันเห็บ)
ทำความสะอาดที่นอน พื้นที่อยู่อาศัยของสัตว์เลี้ยง
ตรวจร่างกายเป็นประจำ หากพบเห็บต้องรีบกำจัดให้หมด
สังเกตอาการสัตว์เลี้ยงเสมอ หากเดินผิดปกติให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์




ความคิดเห็น