🩺 สังเกตให้ไว 5 อาการบ่งชี้ว่าแมวอาจป่วย

แมวเป็นสัตว์ที่เก่งในการ “ซ่อนอาการป่วย” มากกว่าสุนัข เพราะโดยธรรมชาติแล้วพวกเขามักไม่แสดงความอ่อนแอให้เห็น เจ้าของจึงควรสังเกตพฤติกรรมและอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจบ่งบอกถึงความผิดปกติได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที มาดูกันว่า 5 สัญญาณเตือนที่บอกว่า “เจ้าเหมียวอาจไม่สบาย” มีอะไรบ้าง

🐾 1. กินน้อยลง หรือไม่ยอมกินอาหาร

ถ้าแมวของคุณเคยกินเก่งแต่จู่ ๆ กลับเมินชามข้าว นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าร่างกายมีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นโรคในช่องปาก เช่น เหงือกอักเสบ ฟันโยก หรือแม้แต่โรคภายในอย่างตับ ไต และระบบทางเดินอาหาร การไม่กินอาหารนานเกิน 24 ชั่วโมงถือว่า “ผิดปกติ” และควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ เพราะแมวที่อดอาหารนาน ๆ อาจเสี่ยงภาวะตับวายเฉียบพลันได้

😿 2. ซึม ไม่ร่าเริงเหมือนเดิม

ถ้าเจ้าเหมียวที่เคยชอบเล่น กลับนอนซึม ไม่ตอบสนองเมื่อถูกเรียก หรือไม่อยากออกจากที่ซ่อน นั่นคือสัญญาณว่าร่างกายอาจกำลังเจ็บป่วยหรือรู้สึกไม่สบาย แม้แต่โรคติดเชื้อบางชนิด เช่น พยาธิเม็ดเลือด หรือไข้หวัดแมว ก็สามารถทำให้พวกเขาอ่อนแรงได้ การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์จึงไม่ควรมองข้าม

🚽 3. ปัสสาวะหรืออุจจาระผิดปกติ

หากแมวปัสสาวะบ่อยเกินไป หรือไม่ถ่ายเลย มีเลือดปน หรือร้องเสียงดังขณะเข้ากระบะทราย อาจเป็นสัญญาณของ “โรคระบบทางเดินปัสสาวะ” ซึ่งพบได้บ่อยในแมว โดยเฉพาะแมวเพศผู้ที่เสี่ยงต่อการอุดตันของท่อปัสสาวะ นอกจากนี้ การถ่ายอุจจาระเหลวหรือมีเลือดปนก็อาจบอกถึงโรคลำไส้อักเสบหรือพยาธิภายในได้เช่นกัน

🧼 4. ขนร่วงมาก ขนหยาบ หรือเลียตัวบ่อยผิดปกติ

ขนของแมวคือดัชนีวัดสุขภาพที่ดีอย่างหนึ่ง หากขนเริ่มร่วงเป็นหย่อม ๆ มีรังแค หรือแมวเลียตัวแรง ๆ จนขนหายไปบางจุด อาจบ่งชี้ถึงโรคผิวหนัง ภูมิแพ้ หรือแม้แต่ภาวะเครียด ขณะเดียวกัน หากขนดูหมองหรือหยาบกระด้าง อาจเกิดจากการขาดสารอาหาร หรือโรคในอวัยวะภายใน เช่น ตับหรือไต

👀 5. น้ำหนักลด หรือมีกลิ่นปากแรง

แมวที่น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วโดยไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการกิน อาจมีปัญหาเกี่ยวกับระบบเผาผลาญ หรือโรคเรื้อรัง เช่น ไตวาย เบาหวาน หรือภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน ส่วนกลิ่นปากแรงกว่าปกติอาจเกิดจากโรคเหงือก ฟันผุ หรือการติดเชื้อในช่องปาก ซึ่งหากปล่อยไว้นานอาจลุกลามถึงอวัยวะภายในได้

❤️ ดูแลไว หายได้ทัน

เมื่อสังเกตพบอาการเหล่านี้ อย่ารอให้หายเอง เพราะโรคในแมวส่วนใหญ่หากตรวจพบเร็ว มักรักษาได้ง่ายและมีโอกาสฟื้นตัวสูง เจ้าของควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อวินิจฉัยอย่างละเอียด และตรวจสุขภาพประจำปีอย่างน้อย 1 ครั้ง เพื่อให้เจ้าเหมียวอยู่กับคุณไปนาน ๆ อย่างแข็งแรงและมีความสุข