🦷 5 อาการเหงือกอักเสบในแมว ที่เจ้าของต้องรู้ให้ไวก่อนจะลุกลาม
- Benjapornchita Thongtaipar
- 5 พ.ย.
- ยาว 1 นาที
ใครที่เลี้ยงแมวคงรู้ดีว่า “สุขภาพช่องปาก” ของน้องเป็นเรื่องเล็กที่อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้โดยไม่รู้ตัว หนึ่งในปัญหาที่พบบ่อยคือ “เหงือกอักเสบ” ซึ่งถ้าปล่อยไว้นานอาจลุกลามจนกระทบต่อการกินอาหาร น้ำหนักลด หรือแม้แต่ทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้าสู่กระแสเลือดได้! มาดูกันว่า 5 สัญญาณเตือนที่บอกว่าน้องอาจมีภาวะเหงือกอักเสบนั้นมีอะไรบ้าง
1. 🩸 กลิ่นปากแรงผิดปกติ
ถ้าน้องแมวเริ่มมีกลิ่นปากแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งที่ไม่ได้กินอาหารแปลก ๆ อาจเป็นสัญญาณแรกของการอักเสบในช่องปาก กลิ่นเหล่านี้เกิดจากแบคทีเรียสะสมที่เหงือกและซอกฟัน ซึ่งหากไม่รีบพาไปตรวจ อาจลุกลามจนเกิดหินปูนหรือฟันโยกได้
2. 🍗 กินอาหารน้อย หรือกินแล้วปล่อยทิ้ง
แมวที่เหงือกอักเสบมักจะรู้สึกเจ็บเวลาเคี้ยวอาหาร โดยเฉพาะอาหารเม็ด เจ้าของอาจสังเกตได้ว่าน้องกินช้าลง เคี้ยวข้างเดียว หรือบางทีกลืนทั้งชิ้นแทนที่จะเคี้ยว การกินน้อยลงแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใจ แต่คือสัญญาณที่ไม่ควรปล่อยผ่าน
3. 😿 น้ำลายไหลมากผิดปกติ
น้ำลายไหลอาจดูเหมือนเรื่องเล็ก แต่ถ้าไหลตลอดเวลา แถมมีคราบขาวหรือเลือดปน อาจเป็นสัญญาณชัดเจนของเหงือกอักเสบหรือแผลในช่องปาก ลองสังเกตว่าขนรอบปากของน้องเปียกบ่อยหรือมีกลิ่นไหม ถ้ามี แนะนำให้รีบพาไปตรวจ
4. 🦷 เหงือกแดง บวม หรือมีเลือดซึม
เปิดปากน้องเบา ๆ แล้วดูเหงือก หากเห็นว่ามีรอยแดง รอยบวม หรือเลือดซึมตรงขอบฟัน แสดงว่าเหงือกอาจอักเสบแล้ว ปกติแมวที่สุขภาพช่องปากดี เหงือกจะมีสีชมพูเรียบสม่ำเสมอ ไม่มีกลิ่นและไม่มีรอยบวม
5. 🧡 พฤติกรรมเปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัว
บางครั้งแมวที่มีอาการปวดในช่องปากจะไม่แสดงออกตรง ๆ แต่จะเริ่มซึม ไม่อยากให้จับหน้า หรือหลบมุมบ่อยขึ้น นี่คือ “สัญญาณเงียบ” ที่หลายคนมองข้าม หากน้องเริ่มไม่ร่าเริงเหมือนเดิม ควรพาไปให้สัตวแพทย์ตรวจทันที
เหงือกอักเสบในแมวสามารถรักษาได้ง่าย หากตรวจพบตั้งแต่เนิ่น ๆ เจ้าของควรหมั่นดูแลช่องปากน้องเป็นประจำ เช่น แปรงฟันให้ หรือพาไปขูดหินปูนปีละ 1–2 ครั้ง เพราะสุขภาพช่องปากที่ดี ไม่เพียงช่วยให้น้องกินอาหารได้อร่อยขึ้น แต่ยังช่วยยืดอายุสุขภาพโดยรวมให้แข็งแรงอีกด้วย ❤️





ความคิดเห็น